แฟนภาพยนตร์โทโทโร่, มิติวิญญาณมหัศจรรย์ (Spirited Away) และเรื่องอื่น ๆ ของผู้กำกับ ฮายาโอะ มิยาซากิ อาจเคยได้ยินชื่อพิพิธภัณฑ์ Ghibli ในโตเกียวที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษให้เหมือนฉากในภาพยนตร์ คุณจะรู้สึกเหมือนได้เดินเข้าไปในโลกแฟนตาซี
อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ อาจไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้เขียนจึงอยากให้คำแนะนำและกลเม็ดที่จะพาคุณไปท่องโลก Ghibli ได้อย่างสนุกสนาน!
คุณสามารถจองตั๋วได้ทั้งจากในและนอกประเทศญี่ปุ่น!
การจองตั๋วในประเทศญี่ปุ่น
ส่วนที่ยากที่สุดของการเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ Ghibli คือ การซื้อตั๋วล่วงหน้าซึ่งมีอยู่วิธีเดียวเท่านั้น คือจาก Loppi machine (เฉพาะภาษาอังกฤษ) ที่ร้านสะดวกซื้อลอว์สัน หน้าตั๋วจะระบุวันที่และเวลาสำหรับเข้าขม และคุณสามารถเลือกเวลาเข้าชมได้เพียงหนึ่งครั้งจากทั้งหมดสี่ช่วงเวลาที่กำหนดที่หน้าตั๋ว
เมื่อไปถึงพิพิธภัณฑ์คุณจะต้องนำตั๋วที่จองมาไปแลกเป็น ”ตั๋วหนัง” ในแต่ละรอบจะมีการกำหนดจำนวนตั๋วที่จะแลกได้ ดังนั้น ผู้เขียนอยากแนะนำให้คุณซื้อตั๋วในช่วงเช้า
ส่วนคนที่อาศัยอยู่ในมิตะกะ ซึ่งเป็นเมืองที่พิพิธภัณฑ์ Ghibli ตั้งอยู่จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น สามารถเลือกวันจองตั๋วได้
การจองตั๋วนอกประเทศญี่ปุ่น
ถึงแม้คุณจะไม่ได้อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น คุณก็ยังจองตั๋วได้! ตั๋วเหล่านี้มีจำหน่ายที่เคาน์เตอร์หรือตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวในฮ่องกง ไต้หวัน อเมริกา เกาหลี และออสเตรเลีย โดยตั๋วของแต่ละเดือนจะถูกวางจำหน่ายตั้งแต่วันแรกของเดือนนั้น ๆ และมีอายุ 3 เดือน คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่ (เฉพาะภาษาอังกฤษ)
พิพิธภัณฑ์ Ghibli จะจัดแสดงภาพยนตร์แอนิเมชั่นขนาดสั้นทุกเดือน ถ้าจะให้ดีควรเลือกวันที่จะไปตามกำหนดฉายภาพยนตร์ที่คุณอยากดู ในส่วนงานนิทรรศการที่จัดแสดงก็เปลี่ยนทุกเดือนเช่นกัน
แต่อย่างที่คุณรู้ในวันหยุดพิพิธภัณฑ์จะมีคนไปเที่ยวชมมากกว่าวันธรรมดาตอนบ่าย ผู้เขียนอยากแนะให้คุณลองไปในวันธรรมดาตอนเช้าดู!
การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์มีสองวิธีหลัก คือ ทางรถโดยสารและการเดิน แต่ไม่แนะนำให้ขับรถไปเพราะบริเวณนั้นไม่มีที่จอดรถ
ทางรถโดยสาร
ก่อนอื่นคุณต้องนั่งรถไฟไปลงที่สถานีรถไฟมิตะกะ ที่นั่นจะมีรถบัสรับส่งเป็นลวดลาย Ghibli ซึ่งจะพาคุณไปที่พิพิธภัณฑ์ (คำแนะนำ : ตั๋วโดยสารไปกลับราคาถูกกว่าตั๋วแบบเที่ยวเดียว!)
สำหรับขากลับให้ไปที่ป้ายรถโดยสารเบอร์ 9 ซึ่งอยู่ตรงทางออกทิศใต้ของพิพิธภัณฑ์ คุณสามารถดูตารางรถบัสได้ ที่นี่ (ภาษาอังกฤษ)
การเดินไป
หากคุณไม่อยากเสียเงินค่ารถและอยากเดินจากสถานีรถไฟมิตะกะมากกว่า ขอแนะนำให้ใช้เส้นทางเลียบทางน้ำ Tamagawa Josui และให้สังเกตป้ายที่เขียนว่า Kazenosanpomichi
初出勤頑張ります*\(^o^)/*🌳
中国茶と酵素玄米の癒し系カフェギャラリー紗羅舎は、三鷹駅からジブリ美術館方面、風の散歩道沿い右側歩いて、ピラミッド型のオブジェを右に入るとあるよ
良かったらいらしてネ☺️🌺 pic.twitter.com/PlMlq88InE
— nature (@azumin27) 2014年10月3日
เดินตรงไปประมาณ 15 นาที จนกว่าคุณจะเจอป้ายพิพิธภัณฑ์ Ghibli!
คาเฟ่แห่งนี้ของพิพิธภัณฑ์ Ghibli ใช้ผักและอาหารที่มีตามฤดูกาล คุณจะได้เห็นเมนูและวัตถุดิบสดใหม่ไม่ซ้ำกันในแต่ละรอบที่คุณไป (หากคุณมีโอกาสได้มาในฤดูกาลต่าง ๆ)
เราขอแนะนำให้คุณมาถึงก่อนเวลาล่วงหน้า 1 ชั่วโมง! และหากไม่ทานที่ร้าน คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับความตระการตาของอาณาจักร Ghibli ที่อยู่รอบตัวคุณ
สิ่งที่ควรรู้อีกข้อคือ : ถ้าคุณคิดว่าแอนิเมชั่นเหมาะสำหรับเด็กเท่านั้น คุณกำลังคิดผิด! เพราะ Ghibli ได้พยายามที่จะสื่อสารไปถึงกลุ่มเป้าหมายทุกวัย โดยเฉพาะการออกวางจำหน่ายเบียร์ ”หุบเขาแห่งสายลม” (Valley of the Wind) โดยได้ลูกชายของฮายาโอะ มิยาซากิเป็นผู้ออกแบบฉลากให้ เราขอแนะนำให้ดื่มคู่กับการทานฮอตดอก
ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์ คือ ร้านขายของที่ระลึกซึ่งจะมีของหายากหลายชิ้นวางจำหน่ายที่นี่ ผู้เขียนอาจจะไม่สามารถนำเสนอได้ทั้งหมดว่าภายในร้านมีอะไรจำหน่ายบ้าง แต่อยากนำเสนอสักสองสามชิ้นมาให้ผู้อ่านได้เพิ่มเป็นรายการของฝากน่าซื้อ
ส่วนของที่ระลึกที่เหลือผู้เขียนอยากให้คุณได้ไปเห็นเองที่ร้าน!
แม้ว่าภายในพิพิธภัณฑ์มีความน่าสนใจจนคุณอาจจะอดถ่ายรูปไม่ได้ แต่ทางพิพิธภัณฑ์ไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป คุณสามารถถ่ายรูปแค่เพียงพื้นที่ด้านนอกเท่านั้น
ถ้าคุณไม่อยากถือสัมภาระไปด้วยระหว่างเดินชม ทางพิพิธภัณฑ์มีบริการตู้ล็อคเกอร์ฟรีบริการ! หากคุณหาตู้ล็อคเกอร์สีเขียวไม่เจอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่
หากคุณเป็นแฟนของค่ายจิบลิคุณไม่ควรพลาดสถานที่แห่งนี้ และผู้เขียนหวังว่าคำแนะนำต่าง ๆ ที่ให้ไปจะช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับนิทานแฟนตาซีที่มาจากโลกของของฮายาโอะ มิยาซากิและปรากฏในภาพยนตร์ของเขาเท่านั้น
เว็บไซต์ Ghibli Museum *เฉพาะภาษาอังกฤษ