สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า สนามบินหลักทั้งเจ็ดแห่งของประเทศ สามารถใช้ระบบจดจำใบหน้า หรือ Facial recognition สำหรับชาวต่างชาติ เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วบริเวณขาออกของสนามบิน เพื่ออำนวยความสะดวกในสนามบินและลดความแออัดของผู้โดยสาร
国内7空港、外国人出国にも顔認証ゲート 羽田は今月末から導入https://t.co/XYoJdR5L1y
— 日刊工業新聞電子版 BizLine (@Nikkan_BizLine) 2019年7月3日
【お知らせ】
本日10月31日(水)より、日本人の出国手続でも顔認証ゲートの運用を開始しました!ご出国やご帰国で羽田空港をご利用の際は、ぜひ顔認証ゲートをご利用下さい。事前登録不要で、Smart Entryをご体験いただけます♪ pic.twitter.com/juqEK9ZNi6— 東京出入国在留管理局羽田空港支局 (@IMMI_HANEDA) 2018年10月30日
ในปี 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันโอลิมปิกและแผนการโปรโมทการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็ได้มีการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับจำนวนท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเดินทางเข้าออกที่สนามบินหลักของประเทศญี่ปุ่นเป็นจำนวน 40 ล้านคน และในปี 2030 ก็คาดการว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถึง 60 ล้านคน จึงได้มีการเปิดการใช้งานระบบจดจำใบหน้าสำหรับชาวต่างชาติที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้จะเป็นการใช้งานในบริเวณผู้โดยสารขาออกของสนามบิน
【関西空港支局からのお知らせ】9月25日(水)から外国人の出国手続にも顔認証ゲートが利用できます!
※対象となる外国人:IC旅券を所持し,日本を出国しようとする在留資格「短期滞在」で在留する外国人
今後もより一層円滑な審査実現を目指してまいります。 pic.twitter.com/x2NPplC1Qy— 大阪出入国在留管理局関西空港支局 (@IMMI_KANSAI) September 6, 2019
นักท่องเที่ยวสามารถสมัครเพื่อลงทะเบียนใช้งานระบบนี้ได้ตามเงื่อนไขบางประการ อ้างอิงจากเว็บไซต์ official สำหรับชาวต่างชาติที่ถือวีซ่าพำนักระยะสั้นหรือวีซ่าท่องเที่ยว (ระยะเวลา 90 วัน) ก็สามารถใช้งานระบบนี้ได้
สำหรับข้อควรระวังในการใช้งานเพื่อความรวดเร็ว ก็คือ ระบบจะทำการเปรียบเทียบภาพถ่ายในหนังสือเดินทางกับภาพถ่ายจากเครื่อง ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดปัญหาในการตรวจสอบและทำให้เสียเวลา ดังนั้น กรุณาถอดหมวก แว่นตา และหน้ากากอนามัยในขณะใช้งาน
7 สนามบินที่จะเปิดการใช้งาน:
- สนามบินฮาเนดะ:เริ่มใช้งาน 7 กรกฎาคม 2019
- สนามบินนาริตะ:เริ่มใช้งาน 27 สิงหาคม 2019
- สนามบินคันไซ:เริ่มใช้งาน 25 กันยายน 2019
- สนามบินฟุกุโอกะ:เริ่มใช้งาน 8 ตุลาคม 2019
- สนามบินจูบุ:เริ่มใช้งาน 7 พฤศจิกายน 2019
- สนามบินชินชิโตเสะ:เริ่มใช้งานกลางเดือนพฤศจิกายน
- สนามบินนาฮะ:เริ่มใช้งานต้นกรกฎาคม 2020
คลิปด้านล่างเป็นโฉมหน้าของเครื่องจดจำใบหน้านี้
ข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม ประกาศสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น *เฉพาะภาษาอังกฤษ