โตเกียวครองแชป์เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกมาแล้วถึง 3 ปีซ้อน โดยเว็บไซต์ the Economist Intelligence Unit ได้จัดอันดับให้โตเกียวเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกประจำปี 2019 ตามด้วยสิงคโปร์ และโอซาก้าอยู่อันดับสาม ตามที่คาดไว้การจัดอันดับได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวโตเกียว และผลการสำรวจนี้ก็เป็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมากทั่วโลก
แต่เหรียญมีสองด้านเสมอ
แม้โตเกียวจะได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก อีกมุมหนึ่งได้นำเสนอในแง่ของคุณภาพชีวิตและจิตใจ ข้อมูลจาก เว็บไซต์ Kisi ตีพิมพ์ผลการศึกษาต่าง ๆ ที่ระบุว่าโตเกียวเป็นเมืองที่เลวร้ายที่สุดในแง่ของความสมดุลระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิต
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในโตเกียวต่างก็ไม่แปลกใจ เพราะพวกเขาก็รู้ว่าเมืองที่ปลอดภัยและมีระบบบการจัดการที่ดีแห่งนี้ ก็มีอีกด้านที่ต้องใช้ชีวิตอย่างรีบเร่ง เหนื่อยล้าจากกการทำงานอย่างหนักตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์
ด้วยความแตกต่างที่น่าสนใจนี้ เรามาลองมาคิดพิจารณากันใหม่อีกรอบว่า “โตเกียวเป็นเมืองที่ดีหรือไม่ดีจริงหรือไม่” และเพื่อทำความเข้าใจการศึกษาทั้งสองแบบนี้ มาลองดูรายละเอียดไปพร้อมกันเลย
เมื่อพิจารณาถึงจำนวนในโตเกียว มีประชากรมากกว่า 13 ล้านคน และมากกว่า 38 ล้านคนหากนับเขตเมืองรอบ ๆ สิ่งที่ทำให้โตเกียวเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกคืออะไร? โตเกียวได้รับการจัดคะแนนดีในทุกหมวดหมู่ เมื่อแยกดูการจัดอันดับในแต่ละเภท อันดับต่ำสุดที่โตเกียวได้อยู่ที่ลำดับ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สามารถเอาชนะสิงคโปร์ได้
แล้วอะไรคือ ปัจจัยที่ Economist Intelligence Unit ใช้วัดความเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุด:
ระบบรักษาความปลอดภัยแบบดิจิตอล (Digital Security)
โตเกียวเป็นผู้นำในด้าน digital security (ได้อันที่หนึ่ง) ทางเมืองไม่โดนผลกระทบจากไวรัสและมัลแวร์แบบเมืองใหญ่อื่น ๆ ในโลก นอกจากนี้ 91% ของผู้ที่อาศัยในโตเกียวสามารถเข้าถึงอินเทอร์เนตดีกว่าเมืองใหญ่อื่น ๆ ในห้าอันดับอย่างลอสแองเจลิส
ความปลอดภัยด้านสุขภาพ
โตเกียวได้รับการจัดอันดับสูงในเรื่องของสุขภาพ (อยู่อันดับสอง ถัดจาดโอซาก้า) ซึ่งหมายความว่า โตเกียวมีคุณภาพในด้านสาธารณูปโภคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอากาศ คุณภาพของน้ำ อาหารถูกสุขลักษณะ การเข้าถึงสาธารณสุข และบริการฉุกเฉินต่าง ๆ ก็มีความรวดเร็วมาก
ความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐาน
โตเกียวได้รับคะแนนอยู่ที่อันดับ 4 ในเรื่องของความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานที่ 94.3 (รองจากบาเซโลนา 94.4, โอซาก้า 94.5 และ สิงคโปร์ 96.9) ซึ่งคะแนนต่างกันแค่นิดเดียวเท่านั้น ทำให้เห็นว่าเมืองทั้งสี่แห่งนี้มีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดีมาก ๆ อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุง นับตั้งแต่ญี่ปุ่นประสบอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปีที่แล้ว การป้องกันอุทกภัยถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุดของโตเกียว นั่นเป็นสาเหตุที่ทางเมืองสร้าง จี-แคนส์ (G-Cans) โครงการอุโมงค์ระบายน้ำยักษ์ใต้ดินที่มีราคาสูงมาก เพื่อป้องกันน้ำท่วมไม่ให้เกิดขึ้น ผู้ว่าการ Koike ยังระบุด้วยว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ การวางเสาไฟฟ้าลงใต้ดิน เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้ถนนดูสวยงาม แต่ยังเป็นเพราะโตเกียวมีแนวโน้มที่จะเกิดแผ่นดินไหวได้บ่อย และเสาไฟฟ้าเหล่านี้จะเป็นอันตรายมาก
ความปลอดภัยส่วนบุคคล
โตเกียวได้รับการจัดอันดับที่ 4 ในเรื่องของความปลอดภัยส่วนบุคคล ในความเป็นจริงโตเกียวได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่ปลอดภัยมากในเรื่องนี้ เนื่องจากอัตราการเกิดอาชญากรรมค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตาม ทางเมืองยังคงเผชิญกับการทุจริตและการก่ออาชญากรรมซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เมืองนี้ไม่ได้อยู่ในอันดับที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามแม้จะมีระดับการก่ออาชญากรรม แต่ชาวโตเกียวก็ไม่ได้รับผลกระทบจากกลุ่มที่ดำเนินงานในเมือง มันค่อนข้างแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบโตเกียวกับเมืองอื่น ๆ ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม เมืองนี้ยังคงเผชิญกับการทุจริตและการก่ออาชญากรรมซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เมืองนี้ไม่ได้อยู่ในอันดับที่สูงขึ้น แม้จะมีระดับการก่ออาชญากรรมที่ต่ำ แต่ชาวโตเกียวก็ไม่ได้รับผลกระทบจากกลุ่มที่ดำเนินงานในเมือง มันค่อนข้างแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบโตเกียวกับเมืองอื่น ๆ ทั่วโลก
จากข้อมูลของ Kisi ได้จัดอันดับให้โตเกียวเป็นเมืองที่แย่ที่สุดในด้านของ work-life balance หรือ ความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต จากการศึกษาของ Kisi ไม่ได้พูดถึงด้านดีและด้านไม่ดีของการทำงาน แต่แสดงให้เห็นถึงการทำงานหนักของชาวโตเกียว แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ในโตเกียวเท่านั้น เพราะนี่ยังรวมถึงสิงคโปร์อีกด้วย
คนเราไม่สามารถครอบครองได้ทุกอย่าง ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง แม้ว่าโตเกียวจะมีความปลอดภัยสูงในด้านต่าง ๆ แต่ในเรื่องของคุณภาพชีวิตในการทำงานยังอยู่ในระดับที่ต้องปรับปรุงเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนทั่วโลกบอกว่า โตเกียวเป็นเมืองที่น่าทึ่งในฐานะนักท่องเที่ยว แต่ไม่ใช่สวรรค์สำหรับการใช้ชีวิต อันที่จริงก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและอุตสาหกรรมในงานที่ทำมากกว่า เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ชีวิต ทัศนคติและสถานที่ที่เราไปด้วย เพราะผู้คนหลายล้านคนก็ยังคงรักที่จะอาศัยอยู่ในเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น
: Sleeping Tokyo/